“ในวันที่กระต่ายแก้วกลับมายิ้มอีกครั้ง”

ช่วงนี้กระแสฟุตบอลไทยลีกคงจะต้องลดความระอุลงไปหลังต้องถูกสั่งหยุดพักเบรคหนีสถานการณ์ไวรัสโควิด และแน่นอนทีมฟอร์มดีหลาย ๆ ทีมในช่วงออกสตาร์ทคงจะเซ็งกันไปตาม ๆ กัน หนึ่งในนั้นคือ “บีจีปทุม ยูไนเต็ด” ทีมดังย่านรังสิตที่ช่วงเปิดฤดูกาลเก็บไปได้ถึง 10 แต้ม จาก 4 เกม จนถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเต็งร่วมคั่วแชมป์ในฤดูกาลนี้แต่กว่าจะมาถึงตรงนี้หนึ่งขวบปีพวกเขาต้องอดทนพยายามดีดตัวเองกลับขึ้นมาบนสังเวียนไทยลีกหลังตกชั้นไป เราจะมาย้อนรอยความมุมานะของพวกเขาจนกลับมาเป็นทีมที่ใครก็ประมาทไม่ได้ในตอนนี้ สิ้นเสียงนกหวีดที่สนามลีโอสเตเดี้ยม บรรยากาศในตอนนั้นเต็มไปด้วยความสับสนของแฟนบอลหลังทีมพลาดท่าพลิกล็อกพ่ายให้กับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ซึ่งเพียงแค่ยันเสมอแต้มเดียวพวกเขาจะอยู่รอดบนลีกสูงสุดได้อย่างไม่ต้องพึ่งใคร แต่โชคชะตากลับเล่นตลก กล้องถ่ายสดจับไปยังบนแสตนด์เชียร์เหล่าผู้ชมกว่าหลายพันชีวิตโดยเฉพาะแฟนบีจีต่างเต็มไปด้วยน้ำตา แต่ถึงอย่างไรแฟนบอลต่างยังคงร้องเพลงเชียร์กึกก้องไปทั่วสนามลีโอสเตเดี้ยมและก้มหน้ายอมรับความจริง สิ่งสวยงามจากความเศร้านี้ คือ เรายังได้เห็นแฟนบอลให้สัญญากับทีมรักของพวกเขาว่าถึงจะต้องตกไปเล่นในลีกรองก็จะตามเชียร์อย่างสุดกำลัง เมื่อล้มแล้วต้องลุกบีจีเริ่มต้นฤดูกาล 2019 ด้วยการกลายเป็นน้องใหม่ในฟุตบอลไทยลีก 2 พวกเขาตัดสินใจปล่อย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ออกจากทีมด้วยสัญญายืมตัวให้กับทีม โออิตะ ทรีนิตะ ทีมจากเจลีกญี่ปุ่นและเน้นใช้ขุมกำลังเดิมผสมกับตัวต่างชาติและดาวรุ่งที่มี ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน อดีตนักเตะทีมชาติไทย โดยพวกเขาเดินหน้าเก็บอย่างต่อเนื่องและขึ้นไปอยู่บนแท่นจ่าฝูงอย่างยาวนานและมาถึงนัดสำคัญพวกเขาเปิดบ้านไล่ถล่ม ลำปาง เอฟซี ไปถึง 7-1…