แข้งเทพกับภารกิจเซฟเก้าอี้ “มาโน่”

ฟุตบอลไทยลีกเป็นลีกที่ขึ้นชื่อว่ามีการเปลี่ยนโค้ชบ่อยอยู่เป็นประจำ เรียกได้ว่าเปลี่ยนบ่อยจนเหมือนการเลานเก้าอี้ดนตรี เพราะหากไม่ประสบความสำเร็จติดต่อกันผลงาน, ผลตอบแทน, รายได้จากรางวัลต่าง ๆ ที่สโมสรต้องสูญเสียไปก็ยิ่งทวีคูณขึ้น แฟนบอลอาจจะได้รับผลตอบแทนชื่นชมความสำเร็จได้อย่างทันใจแต่กับผู้ที่สวมหัวโขนอาชีพโค้ชแทบจะตรงกันข้าม  แต่ถ้าจะนึกถึงทีมในไทยลีกซักทีมในตอนนี้ที่มีโค้ชดำรงตำแหน่งอย่างยาวนานหลายปีต้องมีชื่อของ “มาโน่ โพลกิ้ง” กุนซือเลือดเยอรมันนี-บราซิล ของทีมทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน สาเหตุที่เขาได้ดำรงอยู่นั้นโดยที่ไม่ได้ถ้วยแชมป์มาประดับตู้สโมสรมาหลายปีแล้วย่อมมีคำตอบ เป็นเวลาเกือบ 5 ปี เข้าไปแล้วที่มาโน่นั่งเป็นกุนซือคอยสั่งการทีมแข้งเทพ ด้วยเม็ดเงินของประธานสโมสรอย่างคุณขจร เจียรวนนท์ เขาสามารถช็อปเลือกนักเตะเข้ามาร่วมทีมได้อย่างไม่มีปัญญา เช่น ฤดูกาลล่าสุดทีมก็ได้ “ฮาจิเมะ โฮโซไก” มิดฟิลด์ ชาวญี่ปุ่นเข้ามาเติมเต็มในแดนกลางหากเป้าหมายของทีมหรือสไตล์การทำทีมไม่มีจุดมุ่งหมายเชื่อเหลือเกินว่ากองกลางชาวอาทิตย์อุทัยคงไม่เก็บกระเป๋าย้ายจากบุรีรัมย์มาแน่นอน ประสบการณ์ของเขาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจากเวทีบุนเดสลีกา ย่อมช่วยมาโน่ให้มีตัวเลือกในการสร้างสไตล์ทีมได้มากยิ่งขึ้น แต่เหล่าบรรดาผู้เล่นทั้งดาวรุ่งฟอร์มแรงและสตาร์ของทีมหลาย ๆ คน คงจะต้องงัดฟอร์มของตัวเองออกมาให้ได้ที่สุด ทั้ง อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, ทริสตอง โด, วันเดอร์ หลุยส์, ปกเกล้า อนันต์, สรรวัชญ์ เดชมิตร, มิก้า ชูนวลศรี หรืออีกหลายรายที่ไม่ได้กล่าวถึง…